--------------------------------------------------------------------------------------------------
--- **นักเรียนเตรียมทหาร สามัคคี มีความรู้ คู่คุณธรรม
--------------------------------------------------------------------------------------------------



วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

คำแนะนำ ในการเตรียมตัวเข้าเตรียมทหาร

การสอบเตรียมทหารนั้นต้องมีการเตรียมตัวอย่างถูกต้อง เพราะถ้ามัวแต่เสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเองนั้นก็บอกได้เลยว่ายากที่จะประสบความสำเร็จในการสอบเข้าเตรียมทหารได้

เพราะสามารถสอบได้แค่เพียงคนละ2-3ปีเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่มีการเตรียมพร้อมที่ดีเท่านั้นที่จะสามารถสอบผ่านเข้าโรงเรียนนายร้อยแต่ละเหล่าที่มีคนสอบมากกว่า20000คน แต่รับได้เพียงเหล่าละร้อยกว่าคนเท่านั้น

เกณฑ์ในการสอบพลศึกษาของโรงเรียนนายร้อย และ เตรียมทหาร แต่ละเหล่าทัพ มีการใช้เกณฑ์การสอบที่กำหนดไว้ หากน้องมีพื้นฐานที่ดีและมีการเตรียมตัวก่อนผู้สอบคนอื่นๆ ก็สามารถที่จะนำเอาชัยชนะมาได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้นเราควรมีความพร้อมก่อนสอบเข้าเตรียมทหาร

โดยทางสถาบันฯ จะมีพี่ๆศิษย์เก่าของสถาบันฯมาให้คำแนะนำในการเตรียมตัวฝึกฝนในทุกๆสถานีที่ทำการสอบ แนะนำและสอนเทคนิคการสอบสัมภาษณ์จากประสบการณ์ตรงของพี่ๆแต่ละเหล่าทัพ หากน้องได้รู้ข้อมูลในการสอบต่างๆมากกว่าผู้สอบคนอื่น จะช่วยในการลดความตื่นเต้นหวาดกลัว แต่เพิ่มความรู้และความมั่นใจให้กับน้อง เพื่อสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

การทดสอบบุคคลิกภาพ พละศึกษา เตรียมทหาร



การทดสอบบุคคลิกภาพ.... ไม่มีคะแนนถือเกณฑ์ ได้-ตก โดยใช้แบบทดสอบที่คณะอนุกรรมการกำหนด

การสอบพละศึกษา .... เป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย มีคะแนนเต็ม 50 คะแนน



ดึงข้อราวเดี่ยว เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ให้ผู้ทดสอบจับราวเดี่ยวแบบมือคว่ำกำรอบ ปล่อยตัวให้ตรงจนแขน ลำตัว และขาเหยียดตรง

ท่าปฏิบัติ ให้ผู้ทดสอบทำท่าต่จากท่าเตรียม โอยงอแขนดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือราว แล้วปล่อยตัวลงสู่ท่าเตรียม กระทำติดต่อกันให้ได้จำนวนครั้งที่มากที่สุด ห้ามแกว่งเท้าหรือเตะขา หรือหยุดพักระหว่างครั้งนานเกินกว่า 3-4 วินาทีหรือไม่สามารถดึงขึ้นพ้นราวได้ 2 ครั้งติดต่อกัน หรือดึงขึ้นไม่พ้น ให้หยุดทำการทดสอบ

ถ้าทำได้ 20 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 7 ครั้ง จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

ลุกนั่ง 30 วินาที เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ให้ผู้ทดสอบนอนหงาย เข่าทั้งสองงอเป็นมุมฉาก เท้าทั้งสองวางห่างกันพอประมาณฝ่ามือทั้งสองประสานกันที่ท้ายทอย ผู้ช่วยคุกเข่าอยู่บนปลายเท้าของผู้ทดสอบโดยเอามือทั้งสองกดข้อเท้าของผู้ทดสอบไว้ให้ส้นเท้าติดพื้น

ท่าปฎิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณเริ่ม ให้ผู้ทดสอบลุกขึ้นสู่ท่านั่งพร้อมกับก้มศรีษะลงระหว่างเข่าทั้งสองให้แขนทั้งสองแตะกับเข่าแล้วกลับลงนอนสู่ท่าเตรียมจนศอกแตะกับพื้น ทำเช่นนี้ติดต่อกันให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุดภายใน 30 วินาที ในขณะปฏิบัตินิ้วมือประสานที่ท้ายทอยตลอดเวลา และขณะที่ลุกขึ้นสู่ท่านั่งห้ามเอนตัวไปมา

ถ้าทำได้ 25 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 19 ครั้ง จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

ยึดพื้นหรือดันข้อ เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้ทดสอบนอนคว่ำมือยันพื้น แขนทั้งสองเหยียดตรงห่างกันพอประมาณ ลำตัวเหยียดตรงปลายเท้าจรดพื้นเงยศรีษะขึ้น

ท่าปฏิบัติ ผู้ทดสอบทำต่อจากท่าเตรียม โดยยุบแขนทั้งสองข้างลงพร้อมกันให้บริเวณหน้าอกแตะพื้น แล้วดันลำตัวขึ้นกลับสู่ท่าเตรียม ทำเช่นนี้ให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุด ห้ามทำตัวแอ่น หรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือแขนทั้งสองข้างขึ้นไม่พร้อมกัน หรือหยุดพักระหว่างครั้งนานเกินกว่า 3-4 วินาที หรือไม่สามารถดันขึ้นสู่ท่าเตรียมเกินกว่า 3-4 วินาที ให้หยุดการทดสอบ

ถ้าทำได้ 54 ครั้ง จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 27 ครั้ง จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

วิ่งระยะสั้น ( 50 เมตร) เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้ทดสอบยืนอยู่หลังเส้นเริ่มในลู่วิ่งของตนเองพร้อมจะปฏิบัติ

ท่าปฏิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณ ให้ผู้ทดสอบเริ่มวิ่งอย่างเร็วออกจากเส้นเริ่มจนผ่านเส้นชัย

ถ้าทำได้ไม่เกิน 5.5 วินาที จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 7 วินาที จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

วิ่งระยะไกล ( 1000 เมตร) เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้ทดสอบยืนอยู่หลังเส้นเริ่ม เตรียมตัวปฏิบัติ

ท่าปฏิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณ ให้ผู้ทดสอบเริ่มวิ่งจากเส้นเริ่มไปตามทางวิ่งจนสิ้นสุดระยะทางโดยผ่านเส้นชัย

ถ้าทำได้ไม่เกิน 3.18 นาที จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 4.32 นาที จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

ผู้ที่สอบวิ่งระยะไกลทำเวลาเกินกว่า 5 นาที 22 วินาที หรือวิ่งไม่ถึง จะไม่รวมคะแนนการสอบพละศึกษาทุกประเภท และถือว่าสอบพละศึกษาตก

ยืนกระโดนไกล เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้สอบยืนบนพื้นที่เรียบหลังเส้นกระโดด ปลายเท้าทั้งสองชิดเส้น หันหน้าไปทางทิศทางที่จะกระโดด

ท่าปฏิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณให้เริ่มปฏิบัติ ให้ผู้ทดสอบกระโดดไปข้างหน้าให้ได้ระยะไกลที่สุด (โดยใช้การแกร่งแขนช่วย) วัดระยะทางกระโดดจากเส้นกระโดดไปยังจุดที่ส้นเท้าลงบนพื้นไกลเส้นเริ่มต้นมากที่สุด

ถ้าทำได้ 2.5 เมตร จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 2.25 เมตร จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

ว่ายน้ำ 50 เมตร เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้ทดสอบยืนที่ขอบสระพร้อมจะปฏิบัต

ท่าปฏิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณ ให้ผู้ทดสอบพุ่งตัวลงสระว่ายน้ำแล้วว่ายโดยเร็ว จนถึงขอบสระที่เป็นเส้นชัย การเข้าเส้นชัย ถือเอาส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแตะขอบสระที่เป็นเส้นชัย

ถ้าทำได้ 40 วินาที จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 54 วินาที จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

ผู้ที่สอบว่ายน้ำทำเวลาเกินกว่า 1 นาที 20 วินาที หรือว่ายน้ำไม่ถึงเส้นชัย จะไม่รวมคะแนนการสอบพละศึกษาทุกประเภท และถือว่าสอบพลศึกษาตก

วิ่งเก็บตัว (วิ่งเก็บของ) เตรียมทหาร
ท่าเตรียม ผู้ทดสอบยืนอยู่หลังเส้นเริ่ม พร้อมจะปฏิบัติ ท่าปฏิบัติ เมื่ได้ยินสัญญาณ ให้ผู้ทดสอบวิ่งอย่างเร็วจากเส้นเริ่มไปหยิบท่อนไม้ ท่อนที่ 1 ซึ่งวางอยู่ภายในวงกลมรัศมี 1 ฟุต กลับมาวางภายในวงกลมหลังเส้นเริ่ม ( ห้ามโยนท่อนไม้ ถ้าวางไม่เข้าวงกลมต้องเริ่มต้นใหม่ ) แล้วกลับตัววิ่งไปหยิบท่อนไม้ท่อนที่ 2 แล้ววิ่งกลับผ่านเส้นเริ่มต้นไปโดยไม่ต้องวางไม้ท่อนที่ 2 ลง

ถ้าทำได้ 9.5 วินาที จะได้คะแนนเต็ม

ถ้าทำได้ 11 วินาที จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

การวัดขนาดร่างกายและสอบสัมภาษณ์ เป็นการพิจารณารูปร่าง ลักษณะท่าทาง ความสมบูรณ์ของร่างกาย ความองอาจ ว่องไวและปฏิภาณไหวพริบ ตลอดจนคุณลักษณะอื่น ๆ

ผลการสอบถือเกณฑ์ ได้ หรือ ตก เท่านั่นไม่มีคะแนน เตรียมทหาร

หลักฐานที่ต้องใช้ในการสมัคร เตรียมทหาร

1. รูปถ่ายครึ่งตัวหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นกันแดด แต่งกายชุดนักเรียนหรือชุดสุภาพ ขนาด 1 * 1.5 นิ้ว จำนวน 7 รูป ต้องเป็นรูปที่ถายไว้ดในคราวเดียวกันไม่เกิน 3 เดือน นับถึงวันยื่นสมัคร เขียนชื่อ ชื่อสกุล ด้วยตัวบรรจงด้านหลังรูปทุกรูป เตรียมทหาร

2. สำเนาใบรับรองผลการเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ( รบ. 5- ต หรือ รบ.1-ต) หรือใบรับรองการศึกษาที่โรงเรียนออกให้ โดยมีรูปถ่ายติด จำนวน 1 ชุด

3. สำเนาทะเบียนบ้าน ( ฉบับเจ้าบ้าน) หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่ทางราชการออกให้และรับรองสำเนาถูกต้องไว้เกิน 6 เดือน นับถึงวันปิดรับสมัครของผู้สมัคร จำนวน 1 ชุด

การสอบคัดเลือก และขอบเขตเนื้อหาวิชาสอบ เตรียมทหาร

การสอบรอบแรก เป็นการสอบข้อเขียน วิชาที่สอบได้เแก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย-สังคม ขอบเขตที่สอบตามเนื้อหาที่วิชาครอบคลุมความรู้ระดับ ช่วงชั้นปีที่ 3 ( มัธยมศึกษาปีที่ 1-3) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ มีรายละเอียดดังนี้

วิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนเต็ม 250 คะแนน.....ม.1(ค 101 , ค 102) ม.2(ค 203 , ค 204) และ ม.3(ค 011 , ค 012 )

วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็ม 250 คะแนน.....วิทยาศาสตร์เพื่อการสร้างสรรค์ , น้ำเพื่อชีวิต , สารรอบตัว , โลกสีเขียว , ชีวิตสัตว์ , ระบบนิเวศ , อาหาร , กลไกมนุษย์ , หญิงและชาย , โลกและการเปลี่ยนแปลง , ทรัพย์ในดินสินในน้ำบรรยากาศ , โลกดวงดาวและอวกาศ , พลังงานกับชีวิต , เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน , การขนส่งและการสื่อสาร , ผลผลิตทางการเกษตรและการจัดการ

วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็ม 100 คะแนน.....การใช้ไวยากรณ์พื้นฐาน , ความสามารถในทักษะการอ่าน , ความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อสื่อสาร , คำศัพท์และสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

วิชาภาษาไทย คะแนนเต็ม 50 คะแนน.....หลักภาษาไทย และทักษะสัมพันธ์

วิชาสังคม คะแนนเต็ม 50 คะแนน.....ประเทศของเรา , ทวีปของเรา , โลกของเรา

การสอบรอบสอง เตรียมทหาร


เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติ ทดสอบบุคคลิกภาพ สอบพลศึกษา สอบสัมภาษณ์ และวัดขนาดของร่างกาย

การตรวจร่างกาย.... ถือความเห็นของคณะกรรมการแพทย์จากโรงพยาบาลของเหล่าทัพที่สอบ จะไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายที่ผู้สมัครได้รับการตรวจมา

* คำเตือน เตรียมทหาร

ในตอนเช้าวันตรวจร่างกาย ไม่ควรรับประทานอาหารหวานจัด เพราะอาจทำให้ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ
ก่อนตรวจร่างกาย ห้ามรับประทานยาแก้ไอทุกชนิด
ห้ามใส่ CONTACT – LENS ไปตรวจสายตา

คุณสมบัติของผู้สมัครนักเรียนเตรียมทหาร

* ผู้สมัครเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1.สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือเทียบเท่า


2.อายุไม่ต่ำกว่า 14 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 17 ปีบริบูรณ์

3.มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยกำเนิด

4.มีอวัยวะ รูปร่าง ขนาดของร่างกายเหมาะสมแก่การเป็นนายทหารหรือตำรวจ

5.เป็นชายโสด ไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสียทางเพศ

6.เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี

7.ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย

8.ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา

9.ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกให้ออกจากโรงเรียนเพราะความผิด

10.ไม่เป็นผู้เสพติด หรือสิ่งเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

11.บิดา มารดา และผู้ปกครอง เป็นผู้มีอาชีพอันชอบธรรม หรือมีหลักฐาน

12.เป็นผู้ได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองให้สมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหารแล้ว

ผู้สมัครที่มีสิทธิได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษ เตรียมทหาร

1 ผู้สมัครเป็นบุตรของข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีเวลารับราชการติดต่อกันไม่น้อยกว่า 15 ปี หรือได้รับพระราชทานเหรียญจักรมาลา

2.ผู้สมัครเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้างซึ่งได้กระทำหน้าที่ในระหว่างเวลาที่มีการรบ หรือการสงคราม หรือมีการปราบปรามจลาจลหรือในระหว่างเวลาที่มีพระบรมราชโองการประกาศใช้กฏอัยการศึกหรือมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิก

3. ผู้สมัครเป็นบุตรของทหาร ข้าราชการ หรือลูกจ้างซึ่งต้องประสบอันตรายถึงทุพพลภาพในขณะปฏิบัติราชการในหน้าที่

4. ผู้สมัครเป็นบุตรของผู้ที่ได้ช่วยเหลือราชการในการปราบปรามโจรผู้ร้ายจนถึงแก่ทุพพลภาพหรือถึงแก่ชีวิต
การรับสมัคร เตรียมทหาร

กรณีสมัครด้วยตนเองที่โรงเรียนเหล่าทัพ
กรณีสมัครทางไปรษณีย์ เตรียมทหาร